# หาหนังสือฟรีมาขาย

การเริ่มต้นสำหรับคนงบน้อยๆ (อย่างผม 55) ก็ต้องหาหนังสือฟรีที่ไม่มีลิขสิทธิ์มาขายสิครับ จากไหนน่ะเหรอ แหล่งใหญ่ที่สุดที่บรรดา e-book maker รู้จักดีก็คงไม่พ้น http://www.gutenberg.org/ ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือแบบ Public Domain ขอรวบรัดตัดตอนง่ายๆ คือไม่มีลิขสิทธิ์นั่นแหละ คุณจะเอาหนังสือจากที่นี่ไปดัดแปลงหรือว่าขายก็ได้ ไม่มีใครว่า (หนังสือที่ Publish ก่อนปี 1923 ถือว่าเป็น Public Domain Book ทั้งหมด)

อ้างอิงจากhttp://copyright.cornell.edu/resources/publicdomain.cfm

ว่าแล้วก็เข้าไปหาเลือกหนังสือใน http://www.gutenberg.org/ ซะหน่อย เอาที่รู้จักดีๆ ก่อน นึกออกชื่อนึง “cinderella” น่าจะเป็น Public Domain Book เพราะเป็นเรื่องที่แต่งมานานแล้ว หลังจากกด search คำว่า “cinderella”

หลังจากดูจำนวนการดาวน์โหลดแล้วผมคิดว่าเล่มแรกนี่แหละที่น่าจะขายได้ เพราะคนดาวน์โหลดเยอะแสดงว่าหนังสือต้องค่อนข้างดีพอสมควรเมื่อเทียบกับเล่มอื่นๆ แต่! Amazon มีกฎอยู่ว่าหนังสือที่เราส่งไปนั้นจะต้องไม่ซ้ำกับเล่มอื่น ผมก็เลยนำคีย์เวิร์ด “Blue Fairly Book” ไปเช็คในเว็บ Amazon 

หมายเหตุ: ในการ search ให้เลือกหมวดว่าเป็น Kindle Store เพื่อดูคู่แข่งที่นำ e-book มาขาย

โอ้ว! 108 results มีหลายคนส่งหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว ทำไงดีล่ะ? แต่... ชื่อมันก็ซ้ำกันหลายเล่มนะ

เอาล่ะ เรามาดูกฎของ Amazon กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งหนังสือประเภท PD (Public Domain) ควรต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ก่อนครับ เพื่อไม่ให้เนื้อหาทั้งหมดไปซ้ำกับของคนอื่น

1. Translated – คือการแปลจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งแล้วค่อยส่งไปขาย
2. Annotated – คือการเพิ่มเติมรายละเอียดลงไปในหนังสือ เช่น ชีวประวัติของผู้แต่ง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวกับหนังสือ เป็นต้น
3. Illustrated – คือการนำรูปภาพไปแทรกหนังสือเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน (ต้องเพิ่มอย่างน้อย 10 รูป)

ทีนี้ก็นำหนังสือดังกล่าวมาดัดแปลงตามความถนัดเลยครับ แต่อย่าลืมว่าต้องถูกใจผู้อ่านด้วยถึงจะขายได้ มันยากตรงนี้แหละ